1.
ผมไปอ่านบล็อกของป้าปิ๊ก (คลิกสิ..หลั่งน้ำตากันหน่อย)
ก็ทำให้นึกขึ้นได้ว่าเคยคุยกับป้าแกผ่าน MSN ในเรื่องธรรมะธรรมโมมาครั้งนึง
ไม่ได้ออกแนวศาสนาแมนอะไรหรอกครับ ผมมันก็ไม่ค่อยเข้าวัดเข้าวาอยู่แล้ว
เพียงแต่ว่าในเหตุการณ์เย็ดครกที่ผ่านมา (ภาษาทางการเรียกว่า ธรณีพิบัติภัย ..ชิ)
มันทำให้ผมยินดีและเต็มใจจะทำบุญมากขึ้น
(หยุดกลับบ้านปีใหม่นี่ผมแอบแว้บไปทำบุญมาด้วยล่ะ ..เท่สัดหมา)
2.
ขอบอกจากใจจริงว่าที่ทำบุญน่ะ ผมไม่ได้อยากให้ตัวเองได้ขึ้นสวรรค์หรือนิพพานอะไรนั่นหรอกครับ
แต่มันเป็นความจริงใจในฐานะ “คน” ด้วยกัน (ภาษาทางการเรียกว่า เพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ..ชิ)
ไม่รู้สิ ผมว่ามันเป็นสัญชาตญาณของเผ่าพันธุ์สิ่งมีชีวิตทั้งโลก
ที่พยายามจะปกป้องช่วยเหลือพวกพ้อง (โดยไม่ต้องยืนถือป้ายบริษัทแล้วถ่ายรูปออกทีวี ..ชิ)
ทั้งนี้ ผมเป็นคนไม่เชื่อเรื่องบุญกรรมแต่อย่างใด
ดังนั้นไอ้เรื่องการทำบุญหวังผลแม้เพียงผลบุญบารมีที่จะเกิดขึ้นกับตัวเองนั้น
จึงเป็นเหตุผลที่แม่งจูงใจให้คนทำดีโดยไม่ได้ดีจากสันดาน
เพียงแต่เหมือนทำดีให้ครู (พระเจ้า? - นรกสวรรค์?) เห็น
เพื่อจะได้ได้คะแนนความประพฤติเป็นนักเรียนดีเด่นและได้ทุนปลายปี (ทำเลวก็โดนทัณฑ์บน ..ชิ)
ด้วยเหตุที่ว่า ผมจึงไม่เห็นด้วยกับโอวาทของพระเดชพระคุณพระราชภาวนาวิสุทธิ์ (ธัมมชโยโห่ฮิ้ว) ที่ว่า:
เมื่อถึงเวลาเริ่มต้นศักราชใหม่
สิ่งที่ลูกๆ
ทั้งหลายควรจะนึกถึงเป็นอันดับแรกคือ
เราเกิดมาเพื่อสร้างบารมี
และขอให้ลูกๆ ของหลวงพ่อพึงระลึกเสมอว่า
โลกนี้เป็นที่สำหรับให้เราสร้างบารมี ไม่ใช่เป็นที่สำหรับให้เราเสวยผลบุญ
เพราะฉะนั้นวันคืนล่วงไปล่วงไป
เราจะใช้เวลาทุกอนุวินาที
เพื่อการสร้างบารมีให้มากที่สุด
*ลอกมาจากปฏิทินตั้งโต๊ะปี 2547 ของจ่า (ไอ้ตรงที่ผมเน้นหนานั้นเขาก็เน้นมาจริงๆ นะ..ชิ)
3.
เพราะไอ้ความคิดที่ว่า การทำบุญ การบริจาคนั้นเป็นมารยาททางสังคม หรือความเท่ก็ตาม เราจึงได้เห็น
- ข่าวภราดรฉาวโฉ่ในเรื่องการบริจาคแค่หมื่นเดียว (แล้วนักข่าวไปเสือกเหี้ยอะไรเขาล่ะ ช่างขุดให้เป็นประเด็นจริงๆ)
- ข่าวสหรัฐโดนประชาคมโลกด่า ว่าบริจาคเงินน้อยสัตว์ .. คงเพราะเป็นประเทศมุสลิมละเซ้ (..ชิ)
- ข่าวบริษัทที่เรียงหน้ากันออกทีวี ใส่ชุดผ้าไหมจ๊าบๆ แล้วยืนยิ้มให้กล้อง ถือป้ายชื่อบริษัทและจำนวนเงินเยอะๆ
ครับ..
การบริจาคเงินนั้นช่วยลดหย่อนภาษีได้ 10 เปอร์เซ็นต์ นี่ไงคือ “ผลบุญ” ที่ได้กับตัวคุณเอง
โดย “ศาสนารัฐบาล” ที่ได้ออกกติกาแห่งศีลธรรมข้อนี้ขึ้นมาให้คนทำดี (แม้เพื่อตัวเอง..ก็ยังดีวะเนอะ)
4.
ผมนับถือศาสนาพุทธครับ แต่ออกจะเป็นชาวพุทธที่ไม่เอาห่าอะไรในด้านพิธีกรรมเลย
เพราะวัย(เลย)รุ่นอย่างผมชอบคิดอยู่เสมอๆ ว่าไอ้พิธีกรรมที่เขาคิดๆ กันต่อๆ มาเนี่ย แม่งรกรุงรังว่ะ
เพราะพิธีกรรมในบ้านเราที่เห็นๆ กันน่ะ มันเกิดจากการบูรณาการระหว่างศาสนาพุทธเดิม
บวกศาสนาพราหมณ์ ผีเผออะไรเพียบ …สรุปว่ามั่วไปหมดเลย
จากสมัยที่พระพุทธเจ้ายังเปิดค่ายอินดี้ ไม่มีใครช่วยโปรโมท จนมี “สาวกแนว” ตามมาเป็นพรวน
ก่อเกิดมหาลัทธิที่ยิ่งใหญ่ในด้านปรัชญาความคิด ความรู้และความจริง (โดยไม่จำเป็นต้องติดป้ายเรียกคนให้เชื่อ)
ผมก็เลยไม่ค่อยจะพอใจเท่าไหร่ที่เวลาถวายภัตตาหารกะแม่แล้วแม่จะเซ้าซี้ให้แตะหลัง
เพื่อที่ผลบุญจะไหลผ่านทางผิวหนัง ก่อเกิดความกำซาบลึกถึงผลบุญที่เกิดขึ้น
ทั้งๆ ที่ผมไม่ได้ทำงานหาเงินซื้อของมาทำบุญนั่นแม้แต่บาทเดียว (โอ้ว…… เห็นลูกแก้วเปล่งแสง อิ่มเอิบๆ….. ชิ…ถุย)
***ที่เขียนยังงี้มันเป็นอารมณ์ของเด็กๆ ครับ ผมว่าเดี๋ยวพอแก่ตัวไปก็น่าจะเข้าใจเหตุผลของมันเอง ..นะแม่นะ
5.
ผมดันไปเจอเปรตตอนปี 2544 (นั่นทำให้ผมได้คำตอบของชีวิตแล้วว่า ผีมีจริงว่ะ ไอ้เหี้ยเอ๊ยยยยย)
กลับมาบ้าน เล่าให้แม่ฟัง แทนที่จะโดนด่าว่างมงาย แต่แม่กลับบอกให้ไปทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้
พอดีวันนั้นสบโอกาส พี่ชายคนโตของผมขี่รถไปชนจักรยาน ..เย็ด-เอ๊ย-เย็บไปร้อยกว่าเข็ม นอนซมอยู่โรงบาล
ผมเลยทวงเรื่องทำบุญล่ะแม่ ผ่านมาจนแม่งไปเกิดแล้วมั้งเนี่ย
แม่เลยให้ไปซื้อของเซเว่นในโรงบาล แล้วเดินไปตึกข้างๆ ภูเขาเล็กๆ (โรงบาลพระจอมเกล้าเพชรบุรีอยู่ติดเขาย่ะ)
ตึกนั้นเป็นตึกสงฆ์อาพาธครับ ..ผมเห็นแล้วสะดุดกึกและสว่างวาบขึ้นมาทันทีเลย
นี่ไง นี่ไง.. วิธีทำบุญที่จ๊าบๆ คูๆ โคตรๆ เลย
แม่บอกว่า พระแก่ๆ ที่มาอยู่ในตึกอาพาธเนี่ย ก็เหมือนตาลุงที่ไม่มีลูกหลานจะเอาแล้ว
ทำให้ผมคิดว่า ถ้านั่นไม่ใช่พระ ถ้าเราจะมองให้เป็นเพียงตาลุงเหงาๆ ไม่มีใครเหลียวแลละก็
โคตรน่าสงสารเลยว่ะ!!!!!!!!!!!
ผมซื้อข้าวปลาอาหารและขนมห่อใบตองอีกนิดหน่อยไปถวาย
หลวงตาแกมีสีหน้าแปลกใจระคนดีใจ รับของไปแล้วก็ให้พรเป็นภาษาบาลี (ที่ผมฟังไม่เข้าใจ ..ยังงั้นจะได้บุญไหมจ๊ะ)
โอวววววว
โอวววววว
เพราะความรู้สึกว่า แม่กูเจ๋งว่ะ เจอที่ทำบุญแบบได้ “ให้” เต็มๆ แบบนี้ได้ไงวะ
เลยมัวแต่ทึ่งจนลืมเรื่องอุทิศส่วนกุศลนั่นไปเลย …เวรกรรม!
6.
สุดท้ายนี้ขอบอกว่าอยากให้เราทำบุญกันอย่างฉลาดหน่อยครับ
อย่าไปทำเล้ย.. บุญกับวัดที่รวยๆ แล้วน่ะ
ทำไปก็ไม่ได้ห่าเหวอะไรขึ้นมาหรอก เพราะขนาดพระยังเลือกแดก เอ๊ย ฉันแต่ภัตตาหารดีๆ เลยโยม
การทำบุญในทรรศนคติของผมนั้น ไม่จำเป็นต้องเข้าวัด ไม่จำเป็นต้องถวายพระ ไม่จำเป็นต้องเสียเงิน
และไม่จำเป็นแม้แต่จะนับถือศาสนาพุทธด้วยซ้ำไป (เข้าใจใช่ไหมครับ การทำดีคืออะไร)
สนุกว่ะบล็อกวันนี้ อยากแตกประเด็นออกไปอีกมากมายเลยแต่กลัวแม่งยาวเกิน
พอเหอะๆ เดี๋ยวจะนิพพานกันหมด!
ป.ล. ทั้งนี้ การบริจาคของไปให้ผู้ประสบภัยไม่ใช่การทิ้งของเก่าเหลือใช้ที่สภาพสถุลๆ จากบ้านคุณนะครับ
คุณบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์บอกว่าของบริจาคภาคใต้ 100 เปอร์เซ็นต์นี่ มีที่ใช้ได้แค่ 30 เปอร์เซ็นต์
(นอกนั้นเป็นสวะอะไรไม่รู้ ที่อารมณ์ประมาณว่าหน้าที่กูคือบริจาค ก็โละเสื้อเก่าผ้าขาดให้ไป… ชิ)
ผมทำงานในกองทัพอากาศและผ่านฝูงบิน 601 ที่มีกองของบริจาคฯ มหึมาขนาดถมสนามฟุตบอลมิด (จริงๆ)
เลยรู้สึกว่า เสียดายที่ความจริงใจที่ให้กันจนมากเกินไปนั้นน่าจะเปลี่ยนเป็นเงินก็ดีเนาะ ผู้รับจะได้รับไปโดยไม่ทิ้งขว้างครับ
ป.อ. แล้วจะเล่าเรื่องผีให้ฟัง (นังบลิวบอกว่าถ้าจะเล่าเรื่องผีมันจะไม่มาอ่านบล็อกผม ก็ช่างมึงดิ ..กร๊ากกกก)
ป.ฮ. สุขสันต์วันเด็กครับ (คำขวัญปีนี้อ่านดูดีๆ เหมือนเป็น “คำสั่ง” จากนายกมากกว่านะ…. ต้องยังงั้นต้องยังงี้ ..ชิชิชิชิ)
20 ความคิดเห็น:
แล้วบล็อคคุณวันนี้ก้อแง้มกะลาที่ครอบอยู่บนหัวผมได้อีกนิดนึง
..ชิ
โหย.....โดนใจโคตร
ใช่อย่างที่เราเคยคิดเลยว่ะ
เราไม่ยอมทำบุญบริจาคเงินให้วัดเพราะวัดรวยกว่าเรา
แล้วเราก็โดนด่าจากคนที่ไปด้วยที่ซื้อธูปเทียนทองดอกบัวหมุนเวียน
ซะจนปลายหวีเหี่ยวและร่วมบริจาคเงินซื้อเหรียญหยอดใส่บาตรให้
ดังไปถึงสวรรค์ว่าเห็นแก่ตัว คิดอย่างนี้ก็ไม่ต้องทำบุญ
เออ...กูไม่ทำ
เราไม่เชื่อเรื่องผลกรรม เราเพียงแต่เชื่อในผลของการกระทำ
ถ้าเราทำดี ปูทางไว้ดี เตรียมตัวให้ดี ทางต่อไปข้างหน้าก็ดี
ถ้ามันจะเลวจะร้าย ก็เป็นเพราะตัวเราทำไว้ไม่ดี หรือบางทีก็มี
ไอ้คนสั่วๆรอบข้างมาทำร้ายเรา
ทั้งหมดเป็นผลของการกระทำของเราเมื่อวาน บวกกับการกระทำของ
คนอื่นในวันนี้ ไม่ใช่ผลกรรมจากการตดบนรถเมล์ในชาติที่แล้ว
สงสัยอยู่อีกเรื่อง ขอนอกเรื่องมาเรื่องซูนามิหน่อยเหอะ
ทำไมมีแต่ข่าวว่า "น่าชื่นใจ คนไทยมีน้ำใจ ช่วยกันบริจาคสิ่งของ"
"ชาวต่างชาติชื่นชมการทำงานของคนไทย มั่นใจจะกลับมาเที่ยวอีก"
....ทำไมไม่เจาะให้ถึงตัวชาวบ้านที่เขายังไม่ได้รับของบริจาค
คนที่ไม่มีที่ซุกหัวนอน ไม่มีแหล่งทำมาหากิน ว่าตอนนี้เขาต้องการอะไร
จริงๆแบบเร่งด่วนบ้าง ต้องการอะไรระยะยาวบ้าง อยากวอนขออะไรบ้าง
มีเรื่องเดือดร้อนอะไรบ้าง
ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีข่าวทำนองนี้เลยนะ แต่เห็นคุณนายปากแดงยืนยิ้มหวานๆ
แล้วจะอ้วก ใครดูคนค้นคนมั่ง แม่งโดนใจโคตร
หรือมุมมองของต่างชาติว่าการทำงานส่วนไหนของคนไทย
ที่มันไร้ระบบ ไร้ประสิทธิภาพ ห่วยแตก ช่วยอะไรไม่ได้บ้าง
จะได้เอาสิ่งเหล่านี้มาปรับปรุงแก้ไข
คนไทยชอบให้หยอดยาหอม ว่าดี สวยงาม มีน้ำใจ น่าชื่นชม
และไม่ยอมรับความจริงในมุมที่เน่าเฟะ
พอใครเอาความจริงมาแฉก็รับไม่ได้ ต้องฟ้องร้อง ต้องให้ออก
มาขอโทษ...แม่ง...
ถึงว่าไง นักร้องดาราต่างประเทศเข้ามาก็ต้องเตรียมหยอดคำหวานๆ
ให้กับคำถามทำนองว่า
"ชอบเมืองไทยตรงไหน"...โอ้ เมืองไทยสวยงามมาก ผู้คนเป็นมิตร Land of smile จริงๆ (กูไม่รู้หรอก กูอยู่แต่โรงแรมกับสถานที่จัดคอนเสิร์ต)
"ชอบอาหารไทยมั้ย" ...โอ้ อาหารไทยอร่อยมาก โดยเฉพาะผัดไทยกับต้มยำกุ้ง (แหวะ แดกไม่ลง อาหารประเทศกูยังอร่อยกว่า)
"เมืองไทยสวยงามน่าเที่ยวมั้ย" ...โอ้ ประเทศไทยสวยงามน่าเที่ยวมาก จะหาเวลาว่างมาพักผ่อนส่วนตัว (เห็นแต่ถนนว่ะ รถติดโคตร)
"สาวไทยเป็นไงบ้าง"...โอ้ สาวไทยสวยน่ารักมากเลย (แร่ด หูจะแตก)
"จะกลับมาเที่ยวเมืองไทยอีกมั้ย" ...โอ้ ต้องกลับมาแน่นอน ประท้บใจเมืองไทยมาก (มีงานกูก็มาดูดเงินล่ะวะ ไม่ใช่ว่างตลอดศก ต้องทำมาหาแดกโว้ย)
นอกเรื่องมากไปแล้ว ยาวเกินด้วย อ่านถึงตรงนี้ก็ความอดทนสูงใช้ได้
พี่ตา
เปงผมนะ จะบริจาคสร้างห้องน้ำในวัด
วันไหนขาดห้องน้ำบอก เด๋วช่วยตามมีตามเกิด
ไปบริจาคช่วยภาคใต้มาและ จำนวนเงินก็ตามอัตตภาพอ่ะนะ ไม่ได้อยากจะเท่ห์แต่มันมีความรู้สึกว่าถ้าเป็นเราโดนเหตุการณ์อย่างนี้บ้างก็คงเดือดร้อนมากๆ ก็เลยอยากช่วย (แม้เม็ดเงินจะนิดน้อยกระจ้อยร่อยก็ตาม)
พูดถึงการทำบุญ พวกคุณคงคุ้นหู้กับคำว่า "ทำบุญใส่บาตร" ซึ่งก็ทำให้นึกถึงจังหวัด...(อย่าเอ่ยนามดีฝ่า)ที่ถนนสั้นๆเส้นหนึ่งในอ.เมือง ตอนเช้าๆจะเป็นโซนที่อำนวยความสะดวกเพื่อการใส่บาตรโดยเฉพาะ คือ พ่อค้าแม่ขายจะมาตั้งโต๊ะขาย "ชุดใส่บาตร" กันเรียงราย ชุดใส่บาตรที่ว่านั่นก็จะเป็นจานหนึ่งใบที่มีถุงข้าว,ถุงกับข้าว,ผลไม้และน้ำอีกนิดหน่อย จัดเอาไว้ชุดละ 20 หรือเท่าไหร่ไม่รู้จำไม่ได้และ ใครอยากจะใส่บาตรก็มาซื้อ แล้วก็ใส่กันตรงหน้าร้านนั่นแหละ เพราะจะมีพระผ่านมาเป็นระยะๆ ใส่เสร็จก็คืนจานให้ที่ร้าน แล้วเจ้าของร้านก็จะยื่นที่กรวดน้ำให้ กรวดเสร็จก็ส่งคืน เป็นอันเสร็จพิธี ... ง่ายมะ
ที่จริงมันก็ผิดอะไรหรอก พระท่านก็มาบิณฑบาตรของท่านตามปกติ พวกคนขายก็อยากจะขายของ อยากมีรายได้ ก็ไม่แปลก ใครอยากทำบุญก็มาใส่บาตรก็ไม่แปลก แต่ความรู้สึกมัน "ไม่ใช่" อ่ะ มันดูเป็นกิจกรรมสำเร็จรูปยังไงไม่รู้ อาจเป็นเพราะมันเป็นสังคมเมืองมั้ง ที่อะไรๆก็ดูจะรีบเร่ง ต้องการความสะดวกสบายและรวดเร็ว ไม่เหมือนสังคมชนบทที่เค้าจะลุกขึ้นมาหุงหากันแต่เช้าและก็ทำบุญด้วยความตั้งใจ ไม่รู้ที่กรุงเทพหรือที่อื่นเค้ามีแบบนี้รึเปล่า หรือคุณคิดว่าไง
ปล. ชอบไอเดียแม่คุณแอนมากค่ะ
by
ณ สนามจันทร์
อืม ใช่ๆ ถ้าพี่แอนนี่ เล่าเรื่องผี บลิวก็จะไม่อ่านบล็อคนั้น ถ้าบล็อคอื่น ที่ไม่ได้เล่าเรื่อง
ผี ... ก็ยังจะอ่าน อยู่ ถ้าจะเล่า เรื่องผีเมื่อไหร่ บอกก่อนล่วงหน้าด้วย จะท่องไว้ว่า
"กุจะไม่เข้าไปอ่าน!" นะๆ ช่วยบอกด้วยแร้วกันว่ะ
ป.ล ฝากบอกพี่ ไอ้สวะ! ว่า ทำไมถึงคิดว่า ไม่อยากบวชให้พ่อแม่ล่ะ?
รู้ไม๊? การบวชให้พ่อแม่นะพี่ มันมีความสุขและอิ่มใจมากกกกกกกกกกก
ไม่เคยไปงานบวชสิคะมึง ... แค่บลิวไปเห็นงานบวชเณรของน้องชายลูกของอา
บลิวยังน้ำตาซึม มันน่าประทับใจ มากๆ พ่อแม่มีความสุข มันเป็นประเพณีที่ดีงาม
น้องชายมันก็ไม่ได้ โดนบังคับ แต่มันอยากบวช (สามเณรแก้ว) มากกกกกกก
มันก็เรยขอพ่อแม่มัน แร้วมันก็ได้บวช ว่างๆ ไอ้สวะ! หาเวลาไปงานบวชคนรู้จักบ้างนะ
รับรอง ถ้ามึงไม่ใช่คนที่เหี้ยเลว จัญไร อะไรมากนะพี่นะ พี่จะร้องไห้ หรือไม่ก็น้ำตาซึม
เป็นส้วม กลับบ้าน อย่างแน่นอน เชื่อกุ! เอ้ย ... เชื่อบลิวสิคะ ^_^
อ้ะ.. มาตอบกันยาวๆ ทั้งนั้นเลย
แสดงว่าบล็อกคราวนี้เป็นบล็อกเปิด
สวัสดีปีใหม่ครับ Aisawa :
เรื่องบวชหรือไม่บวชนั้น ผมอยากจะบอกอะไรให้คิดนิดนึง
อย่าลืมว่าเราไม่ได้เกิดมาเพื่อตัวเองนะครับ
เราจะบวช เราจะเจ็บ หรือเราจะตาย
มีคนข้างหลังคอยหัวเราะ ร้องไห้ด้วยกันทั้งนั้น
ไม่งั้นกลับไปอ่านบล็อกของป้าปิ๊กที่ผมบอกไว้ข้างบนสิครับ
สวัสดีปีใหม่ครับ Anonymous :
ยินดีครับ ยินดี
สวัสดีปีใหม่ครับ พี่ตา :
1. ผมเชื่อใน "การปูทาง" ที่พี่ว่าครับ เป็นผลกรรมที่เห็นและจับต้องได้จริงๆ
2. ครับ บ้านเราเมืองพุทธ ไม่มีหรอกกะหรี่ โจร และนักการเมืองเลว มีแต่สยามเมืองยิ้มมม
สวัสดีปีใหม่ครับ PunNeng :
วัดไหนขาดห้องน้ำ เขาคงไม่มานั่งอ่านบล็อกผมหรอกครับ
อยากสร้างห้องน้ำถวาย ต้องไปยันวัดเองเลยยยย
สวัสดีปีใหม่ครับ Tikjok :
เยี่ยวในส้วมทองเหรอ แม่งน่าสุขใจตรงไหนวะ
กร๊ากกก
สวัสดีปีใหม่ครับ ณ สนามจันทร์ :
แม่ผมนี่แหละ คนที่เรียกผมว่า "แอน" ตั้งกะยังไม่เกิด
เป็นคำตอบของคำถามที่ว่า ทำไมผมชื่อแอน ทั้งๆ ที่ไม่ใช่ผู้หญิงซะหน่อย
ไงล่ะ..มีแม่เป็นเด็กแนว.. ภูมิใจชิบหายเลย
สวัสดีปีใหม่ครับ GirlTear :
เกิดวันนึงเพ่หักมุมขึ้นมาเป็นผีตอนจบล่ะจะอ่านไหม
(ไม่อ่านก็ช่างมึง กูไม่ได้สะดุ้งสักนิด ..ชิ)
สวัสดีปีใหม่ครับ นก :
อ้ะ.. อันนี้เป็นคอมเมนต์ยอดเยี่ยมประจำวัน
ดีมากเลยครับที่ไม่เห็นด้วยกะผมทั้งหมด
ผมเขียนบล็อกขึ้นมาก็เพราะยังงี้แหละ
อยากให้เกิดการต่อสู้กันระหว่างตัวอักษรกะความคิดในกบาล
ให้คละคลุ้งไปด้วยขี้เลื่อยปลิวว่อนนน *-*
ยิ่งถ้าเถียงมาโดนๆ นี่โคตรจ๊าบอะ
เอ้อ.. ส่วนเรื่องการกลับไปเขียนอะไรนั่นน่ะ
ฝันไปเหอะครับ!!
ผมก็เขียนผมเรื่อยๆ ยังงี้อยู่แล้ว บางวันหยาบ บางวันคาย บางวันควยเลยก็มี
เรื่องไรต้องตามใจคนอ่านด้วยวะ ตังค์ก็ไม่ให้ ..ชิ
(นี่ผมดุแบบน่ารัก ไม่ได้ด่าจริงจังนะ อย่าทำเป็นงอน ..เดี๋ยวจูบเลย)
โหะๆๆ มาอ่านครั้งแรก มายังงัยมะรุ อ๋อๆ เวบฟอนต์พี่ลงหนังสือgadget อ่ะเลยตามมา ฮ่ะๆ อ่านที่พี่เขียนแล้วทำให้คิดถึงเรื่องที่ไม่เคยสนใจดีนะ เยี่ยมม
ปล.บล๊อกสวยอ่าค่ะ
iammai
กูยัง งงๆ ตัวเองอยู่ว่ามาตามอ่านบล้อกนี้ได้บ่อยๆ ได้ไงวะเนี่ย
คนที่คุณก็รู้ว่าใคร
ปล.= ปัจฉิมลิขิต
อ่า~ ทำไมเราถึงได้เข้ามาอ่าน ไอ้เว็บบ้าๆนี้ มาตั้งแต่ มันยังไม่มีอะไรได้หว่า -_-'' .... สงสัยคงบ้าพอๆกัน
วันนี้เขียนได้สนุกมากครับ -_-b
"จากสมัยที่พระพุทธเจ้ายังเปิดค่ายอินดี้ ไม่มีใครช่วยโปรโมท จนมี “สาวกแนว” ตามมาเป็นพรวน"
โห แม่ง คิดได้ไงเนี่ย จ๊าบ (แปลว่าลาว) สุดๆ .. เอากะมันสิ !!
อ่านคอมเม้นข้างบนเรื่องการบวช....
รู้สึกว่าบวช บวชให้พ่อให้แม่อะไรนั่นอ่ะ เป็นการทำให้พ่อแม่ดีใจล้วนๆ
แล้วมันก็แค่นั้น.......!!!!
ที่บ้านนะพ่อแม่ขอให้น้องชายบวช มันบอกว่า "งั้นแลกกะเกมเพลย์" -*-
lyre
หวัดดีค่ะพี่แอน
แม่พี่แอนจ๊าบสุดฤทธิ์.... นู๋ชอบ
แม่นู๋ก็จ๊าบเหมือนกัน ไว้เรามาแลกแม่กันนะ กึ๋ยยยยยย...
เรื่องทำบุญอ่ะ นู๋ไม่มีความเห็น
นู๋ขอเทียบเรื่อง การกตัญญูกตเวทีละกัน
กตัญญู ก็คือการรู้คุณ
กตเวที ก็คือการตอบแทนคุณ
แสดงว่า ต้องคิดแล้วกระทำด้วย
นู๋เห็นด้วย และคิดว่า การกตัญญูอย่างเดียวมันไม่พอ มันต้องกตเวทีด้วย
เกี่ยวกะเรื่องของพี่แอนมั้ยเนี้ย.....
นู๋คิดเรื่องนี้ขึ้นมา เพราะอ่านเรื่องพี่แอน แล้วคิดถึงพ่อกะแม่น่ะ
บ้านนู๋ไม่มีลูกชาย ก็เลยไม่มีใครต้องบวชไง
แล้วมันก็พาลคิดเรื่องกตัญญูกตเวทีขึ้นมาได้ไงไม่รุ.....
ตกลงพี่จะยืมหนังสือ เรื่อง "GooD LucK" นู๋ป่ะ คิคิ
ยังโปรโมทต่ออีกนะกรู.......
หงุมหงิมคับท่าน
อ่ะ! เอามาฝาก
http://www.kapook.com/musicstation/newmusicstation/play.php?id=4332
ณ สนามจันทร์
อ่านแต่ละความคิดของแต่ละคน...
ก็ขึ้นอยู่กับความตั้งใจของผู้กระทำน่ะครับ
เพิ่งกลับมาจากใต้ สภาพจิตใจของคนที่นั่นยังย่ำแย่อยู่นะครับ
คิดว่า เรื่องสิ่งของคงจะเพียงพอในระดับนึง
ที่ต้องการตอนนี้ก็คือ การเยียวยาด้านจิตใจมากกว่าครับ
ที่บ้านผมตอนนี้ เค้าไม่กล้ากินปลาทะเลกันแล้วอ่ะ...
แอนเข้าลัทธิตูมะ.........
ไม่มีศาสดา.......ไม่มีพระเจ้า.....ไม่นับถือเชี่ยไรทั้งนั้น........นอกจากตัวเอง........
ตูเปนคนไม่มีศาสนาหวะ.....5555555.....
.......คันโตน่า...........บา............
เข้ามาดูฟ้อนท์พี่ซะหลายที
โหลดไปใช้ออกบ่อย
แต่ทามม๊ายย ไม่เคยเจอบล็อคหยาบคายซะทีเลยอ่ะ
เพิ่งมาเจอเอาวันนี้...ชิ
ดีเลยๆ ไว้จะมาอ่านบ่อยๆ
ปล.ใกล้นิพพานแล้วแหละนะ^^
อ่า เอ่อ... อือๆ
ตาลายชิบ
ช่าย เพราะงี้แหละ Gooo! เลยยังไม่บวช
แต่ทำบุญจะทำให้เฉพาะคนที่น่าสงสารและไม่มีเรี่ยวแรง หรือปัญญา หรือกำลังที่จะไปช่วยเหลือตัวเองได้เท่านั้นจริงๆที่จะให้
ส่วนพวกที่เหลือ
ตังค์ Gooo! ทำมาหาแดกง่อกๆๆ จะมาเอาไปง่ายๆได้งัย
iammai :
หวัดดีค่าขาใหม่ (ชื่อใหม่ด้วยรึเปล่า)
พอเห็นว่าเว็บพี่ได้ลงในหนังสือ ก็วิ่งไหปร้านนายอินทร์ ซีเอ็ด ฯลฯ เลยเว่ย
แต่ไม่เห็นหนังสือ Gadget เลยง่ะ
ใครหาให้หน่อย มันเป็นแนวไหนเหรอ T-T
คนที่คุณก็รู้ว่าใคร :
ตามมาอ่านเรอะ ...ชิ
ตามมาทวงงานละสิไม่ว่า
Sea_Silk :
นี่ ที่ว่าเช้งนี่.. สังขารเช้งหรือส้มเช้งยะ
Anonymous :
ขอบคุณครับ
Anonymous อีกคน :
จ๊าบแปลว่าลาวเหรอ..อืมมมม
กลับไปอ่านบล็อกผมอันแรกๆ สิครับ
ผมเขียนเรื่องจ๊าบ/ลาวไว้แล้ว 555
อ้ายโรคจิต :
เอาอะไรมาคิดวะ ที่ว่าคนเล่นเน็ตมีแต่คนไม่ดี?
งั้นคนดูทีวี ฟังวิทยุ หรืออ่านหนังสือพิมพ์ก็มีแต่เหี้ยละสิ
โปรดอย่าเหมาจ่ายสิเฮียยยยยย
lyre :
ส่งน้อยชายไปเบียดสิ
แล้วถามมันว่า จะให้แลกกะอะไร
Aisawa :
พอ พอ เดี๋ยวกลายเป็นกระทู้ธรรมะไปฉิบ
LuKM@i :
เจริญพร
หงุมหงิม :
เดี๋ยวเฮียก็โปรโมทการ์ตูนของตัวเองมั่งหรอก
แต่อย่าดีกว่า อายว่ะ *-*
ณ สนามจันทร์ :
เพลงฮิตติดชาร์ท *-*
Nine Ake :
ไปบ้านอื่นเมืองอื่นเขาก็เล้ยงปลาโดยให้กินขี้ไก่กันทั้งนั้นละครับ
คันโตน่า :
นั่นแหละศาสนาที่กำลังฮิต
นับถือตัวเอง
Anonymous :
ชิ.. ชั้นอุตส่าห์แปะลิงค์ไว้ล่อเป้ามาแรมปี
*~*~*~* :
โอเค เจอกันยามออนไลน์กรั้บ
beginsun :
นั่นเดะ *-*
Anonymous :
ถ้า Mungggg คิดยังงี้ละก็
เวลา Munggg โดนไฟไฟม้บ้านแล้วจะรู้สึก
เพิ่งเคยเข้าwebพี่ หนูว่าพี่เขียนได้สนุกดีนะ เอี้ยดี
ไม่มีไรหรอก จะเข้ามาบอกว่า gadget เป็นนิตยสารแจกฟรีอ่ะ รับได้ที่B2S ร้านน้อง ... อะไรเงี้ย
(ว่าแต่พี่ลงเล่มไหนอ่ะ?)
แสดงความคิดเห็น